ONLINE
วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
ลอบวางระเบิดทหารชุดคุ้มครองครู
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 22 ก.พ.54 พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิต ผบก.ภจว.นราธิวาส พร้อมด้วย พ.ต.อ. ไมตรี ฉิมเฉิด ผกก.กลุ่มงานสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธร จ.นราธิวาส นำกำลังเข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดร้อยปืนเล็กที่3 ฉก.นราธิวาสที่32 กองทัพเรือ เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนปากทางเข้าโรงเรียนบ้านกูแว หมู่ 1 ต.ลูโบ๊ะบายะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส พบเศษชิ้นส่วนระเบิดทั้งเศษกล่องเหล็กและเศษชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือกระจายเกลื่อนเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
โดยคนร้ายได้นำระเบิดเคโมบรรจุใส่ไว้ในกล่องเหล็กน้ำหนักประมาณ 5 กกนำไปฝังไว้ที่บริเวณใต้พุ่มไม้ที่รกทึบติดหัวสะพานข้ามคลองทางเข้าโรงเรียน ซึ่งห่างจากโรงเรียนบ้านกูแว 1กม. ซึ่งคนร้ายได้ตั้งการจุดฉนวนระเบิดไว้ 2 ระบบทั้งจุดฉนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือและระบบตั้งเวลา ขณะเดียวกัน พันจ่าเอกปราโมทย์ ศรีสวัสดิ์ หัวหน้าชุด รปภ.ครู สังกัดร้อยปืนเล็กที่3 ฉก.นราธิวาสที่32 กองทัพเรือ ได้นำกำลังทหาร 11 นายใช้รถ จักรยานยนต์ขับนำหน้าเพื่อไปส่งครูเมื่อมาใกล้ถึงที่เกิดเหตุห่างกัน100 เมตร จึงเกิดระเบิดขึ้นโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากระเบิดทำงานก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง.....
บึ้มยะลาซ้ำ ดับ 1 เจ็บ 12
บึ้มยะลาซ้ำ ดับ 1 เจ็บ 12 ผู้การยะลา สั่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด
เมื่อวันที่ 21 กพ.54 เวลา 16.40 น. ศูนย์รวมข่าว สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณถนนระนอง เขตเทศบาลนครยะลา มีผู้บาดเจ็บจำนวนหลายราย จึงได้แจ้ง พ.ต.อ.กฤษฎา แก้วจันดี ผกก.สภ.เมืองยะลา ทราบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครยะลา รุดไปที่เกิดเหตุทันที
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุคาร์บอมเมื่อวันที่ 13 กพ.54 ที่ผ่านมาประมาณ 100 เมตร พบว่าไฟกำลังลุกไหม้รถยนต์ของตำรวจทางหลวง และรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ริมถนน จำนวนหลายคัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ฉีดน้ำเพื่อดับไฟ จากนั้นจึงได้ช่วยกันลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา รวม 12 ราย โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบศพหญิงยังไม่ทราบชื่อนอนเสียชีวิตอยู่ 1 ราย
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงขับรถผ่านตรงจุดเกิดเหตุ คนร้ายซึ่งได้นำรถจักรยานยนต์ซุกซ่อนระเบิดจอดอยู่ริมถนนตรงข้ามร้านข้าวต้มโอเค ถนนระนอง ได้จุดชนวนระเบิดขึ้นทันที แรงระเบิดทำให้ไฟลุกไหม้รถยนต์ของตำรวจทางหลวงและรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทันที เพื่อติดตามพฤติกรรมของคนร้าย ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ เนื่องจากในบริเวณดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดอยู่จำนวนหลายตัว
วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
คืบหน้าคาร์บอมยะลา เจ็บรวม 18 ราย ร้านค้าวอด 12 หลัง13 02 54
คืบหน้าคาร์บอมยะลา เจ็บรวม 18 ราย ร้านค้าวอด 12 หลัง เสียหายกว่า 10 ล้านบาท ในขณะที่วงจรปิดพบคนร้ายนำรถมาจอด ส่วน ผวจ.ยะลา สั่งดูแลผู้ได้รับผลกระทบเต็มที่
จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายนำรถยนต์ซุกซ่อนวัตถุระเบิด มาจอดที่หน้าร้านเฮนเบเกอรี่ ถนน ณ นคร เขตเทศบาลนครยะลา แล้วจุดชนวนระเบิดขึ้นในขณะที่มีรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ทหารวิ่งผ่านมา เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย นอกจากนั้นยังทำให้บ้านเรือนที่เป็นร้านค้าถูกเพลิงไหม้นับสิบคูหา เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.50 น. ที่ผ่านมา ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิง สามารถควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้ร้านค้าตรงจุดเกิดเหตุเอาไว้ได้แล้ว โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยในเบื้องต้นบ้านเรือนของชาวบ้านที่เปิดเป็นร้านค้าถูกเพลิงไหม้จำนวน 12 หลัง ค่าเสียหายจากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 18 ราย ทราบชื่อคือ สอ.ชานนท์ สองแก้ว พลทหารวรินรันต์ จันทร์ดี สต.ชาติชาย ประไมยะ ทหารสังกัด ฉก.ยะลา 14 นายเดชณรงค์ พันโท น.ส.อังคณาค์ ภัทรพงศ์ น.ส.ชลัยพร เรือนธรรม นายสมศักดิ์ รักพงษ์ นางศิริพร เรือนธรรม นางทักษิณา วงศ์จุมปู ด.ช.นิลพัทธ แก้วเกาะสะบ้า นายหมู แซ่เสี้ยว นายสุวัฒน์ ไตยรงค์เจริญสุข นายสมมาตร บุญรุ่ง นางปภาดา ผิวเกลี้ยง นายธนันต์ ฉั่วพานิชย์ นางเตือนใจ กลัดทอง และยังไม่ทราบชื่อ 1 ราย โดยส่วนใหญ่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนที่เหลือนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 7 คน
แหล่งข่าวจากชุดสืบสวน ระบุว่า กล้องวงจรปิดในบริเวณจุดเกิดเหตุ สามารถบันทึกภาพของคนร้ายที่นำรถคันดังกล่าวมาจอดได้ โดยเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะดีแมค มาจอดตรงจุดเกิดเหตุ แล้วเดินลงจากรถข้ามฝั่งไปยังด้านหน้าของธนาคารนครหลวงไทย สาขายะลา จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.50 น.ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 14 ขับรถยนต์กระบะอีซูซุ หมายเลขทะเบียน บต.6817 ปัตตานี ผ่านมา คนร้ายจึงกดระเบิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารและชาวบ้านบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพของคนร้าย เอาไว้ได้ มาเทียบกับกลุ่มคนร้ายเป้าหมายแล้ว
“สำหรับระเบิดที่คนร้ายนำมาซุกซ่อนอยู่ในรถคันดังกล่าว ในเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สปิกนิกจำนวน 3 ลูก น้ำหนักรวมไม่ต่ำกว่า 20 กก. เนื่องจากยังมีถังแก๊สปิกนิกบรรจุระเบิด กระเด็นออกจากตัวรถอีก 1 ถัง และไม่ได้เกิดระเบิดขึ้น ส่วนการจุดชนวนเชื่อว่าเป็นระบบรีโมทคอนโทรล หรือระบบมือถือ แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกครั้ง”
ด้านนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายไม่ต่ำ กว่า 11 คูหา ซึ่งการช่วยเหลือเบื้องต้น นั้น ทางจังหวัดยะลาจะร่วมกับเทศบาลนครยะลา นำตั้งเต้นท์มารับแจ้งมูลค่าความเสียหาย โดยที่บ้านเสียหายทั้งหลังทางจังหวัดจะจ่ายให้ 25 เปอร์เซ็นต์ก่อน หลังจากนั้นก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลนครยะลา กับศูนย์เยียวยาจังหวัดประเมินมูลค่าความเสียหาย ซึ่งทางจังหวัดจะจ่ายตามความเป็นจริง โดยจะนำเงินเยียวยาที่ทางจังหวัดมีอยู่มาช่วยเหลือในทันที ซึ่งการเยียวยาในครั้งนี้ไม่ได้เยียวยาเฉพาะความเสียหายบ้านเรือนเท่านั้น แต่จะเยียวยามูลค่า สินค้า ที่ได้รับความเสียหายด้วยซึ่งหากร้านค้าใดมีใบสั่งของ มีและหลักฐาน ก็สามารถที่จะนำมาขอรับการเยียวยาได้ ในส่วนของการเกิดเหตุนั้น ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวแจ้งเตือนมาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ เทศกาลตรุษจีน และทางจังหวัดก็ได้ดูแลระมัดระวัง
“ซึ่งในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 45 ที่ผ่านมา ก็เป็นสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ก็มีข่าวแจ้งเตือนจากหน่วยงานความมั่นคงว่า จะมีเหตุ แต่ในวันนี้คนร้ายใช้วิธีการแบบการหาเหยื่อ เอารถมาจอดไว้ เมื่อมีรถเจ้าหน้าที่ขับผ่านจึงได้กดระเบิดขึ้น แต่เผอิญว่า มีเศษไฟจากวัตถุระเบิดเข้าไปในบ้านราษฎร ซึ่งเป็นบ้านเรือนหลังเก่า และก็มีเชื้อเพลิงอยู่แล้ว ก็เลยทำให้เกิดความเสียหายมาก ตนเองขอแสดงความเสียใจ และขอโทษประชาชนชาวยะลา แต่ว่า การแก้ไขปัญหานั้นทางจังหวัดจะเยียวยาให้เร็ว และให้มากที่สุด” ผวจ.ยะลา กล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวอีกว่า ในเรื่องของมาตรการในการรักษาความปลอดภัยนั้น นอกจากจะตั้งด่านจุดตรวจ จุดสกัดแล้ว ก็จะทีกำลังเจ้าหน้าที่ที่เป็น รถจักรยานยนต์เคลื่อนที่มารักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ซึ่งทางจังหวัดได้กำหนดพื้นที่ ที่เป็นย่านชุมชน ย่านการค้า ย่านธุรกิจของชาวจีนกับชาวไทยพุทธเป็นกรณีพิเศษ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายมุ่งให้เกิดความแตกแยก โดยมุ่งมาทำร้ายชุมชนชาวไทยพุทธกับชุมชนคนจีน เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องดูแลคนไทยพุทธ และคนจีนเป็นกรณีพิเศษไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก
จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายนำรถยนต์ซุกซ่อนวัตถุระเบิด มาจอดที่หน้าร้านเฮนเบเกอรี่ ถนน ณ นคร เขตเทศบาลนครยะลา แล้วจุดชนวนระเบิดขึ้นในขณะที่มีรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ทหารวิ่งผ่านมา เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย นอกจากนั้นยังทำให้บ้านเรือนที่เป็นร้านค้าถูกเพลิงไหม้นับสิบคูหา เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.50 น. ที่ผ่านมา ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิง สามารถควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้ร้านค้าตรงจุดเกิดเหตุเอาไว้ได้แล้ว โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยในเบื้องต้นบ้านเรือนของชาวบ้านที่เปิดเป็นร้านค้าถูกเพลิงไหม้จำนวน 12 หลัง ค่าเสียหายจากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 18 ราย ทราบชื่อคือ สอ.ชานนท์ สองแก้ว พลทหารวรินรันต์ จันทร์ดี สต.ชาติชาย ประไมยะ ทหารสังกัด ฉก.ยะลา 14 นายเดชณรงค์ พันโท น.ส.อังคณาค์ ภัทรพงศ์ น.ส.ชลัยพร เรือนธรรม นายสมศักดิ์ รักพงษ์ นางศิริพร เรือนธรรม นางทักษิณา วงศ์จุมปู ด.ช.นิลพัทธ แก้วเกาะสะบ้า นายหมู แซ่เสี้ยว นายสุวัฒน์ ไตยรงค์เจริญสุข นายสมมาตร บุญรุ่ง นางปภาดา ผิวเกลี้ยง นายธนันต์ ฉั่วพานิชย์ นางเตือนใจ กลัดทอง และยังไม่ทราบชื่อ 1 ราย โดยส่วนใหญ่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนที่เหลือนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 7 คน
แหล่งข่าวจากชุดสืบสวน ระบุว่า กล้องวงจรปิดในบริเวณจุดเกิดเหตุ สามารถบันทึกภาพของคนร้ายที่นำรถคันดังกล่าวมาจอดได้ โดยเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะดีแมค มาจอดตรงจุดเกิดเหตุ แล้วเดินลงจากรถข้ามฝั่งไปยังด้านหน้าของธนาคารนครหลวงไทย สาขายะลา จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.50 น.ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 14 ขับรถยนต์กระบะอีซูซุ หมายเลขทะเบียน บต.6817 ปัตตานี ผ่านมา คนร้ายจึงกดระเบิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารและชาวบ้านบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพของคนร้าย เอาไว้ได้ มาเทียบกับกลุ่มคนร้ายเป้าหมายแล้ว
“สำหรับระเบิดที่คนร้ายนำมาซุกซ่อนอยู่ในรถคันดังกล่าว ในเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สปิกนิกจำนวน 3 ลูก น้ำหนักรวมไม่ต่ำกว่า 20 กก. เนื่องจากยังมีถังแก๊สปิกนิกบรรจุระเบิด กระเด็นออกจากตัวรถอีก 1 ถัง และไม่ได้เกิดระเบิดขึ้น ส่วนการจุดชนวนเชื่อว่าเป็นระบบรีโมทคอนโทรล หรือระบบมือถือ แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกครั้ง”
ด้านนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายไม่ต่ำ กว่า 11 คูหา ซึ่งการช่วยเหลือเบื้องต้น นั้น ทางจังหวัดยะลาจะร่วมกับเทศบาลนครยะลา นำตั้งเต้นท์มารับแจ้งมูลค่าความเสียหาย โดยที่บ้านเสียหายทั้งหลังทางจังหวัดจะจ่ายให้ 25 เปอร์เซ็นต์ก่อน หลังจากนั้นก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลนครยะลา กับศูนย์เยียวยาจังหวัดประเมินมูลค่าความเสียหาย ซึ่งทางจังหวัดจะจ่ายตามความเป็นจริง โดยจะนำเงินเยียวยาที่ทางจังหวัดมีอยู่มาช่วยเหลือในทันที ซึ่งการเยียวยาในครั้งนี้ไม่ได้เยียวยาเฉพาะความเสียหายบ้านเรือนเท่านั้น แต่จะเยียวยามูลค่า สินค้า ที่ได้รับความเสียหายด้วยซึ่งหากร้านค้าใดมีใบสั่งของ มีและหลักฐาน ก็สามารถที่จะนำมาขอรับการเยียวยาได้ ในส่วนของการเกิดเหตุนั้น ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวแจ้งเตือนมาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ เทศกาลตรุษจีน และทางจังหวัดก็ได้ดูแลระมัดระวัง
“ซึ่งในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 45 ที่ผ่านมา ก็เป็นสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ก็มีข่าวแจ้งเตือนจากหน่วยงานความมั่นคงว่า จะมีเหตุ แต่ในวันนี้คนร้ายใช้วิธีการแบบการหาเหยื่อ เอารถมาจอดไว้ เมื่อมีรถเจ้าหน้าที่ขับผ่านจึงได้กดระเบิดขึ้น แต่เผอิญว่า มีเศษไฟจากวัตถุระเบิดเข้าไปในบ้านราษฎร ซึ่งเป็นบ้านเรือนหลังเก่า และก็มีเชื้อเพลิงอยู่แล้ว ก็เลยทำให้เกิดความเสียหายมาก ตนเองขอแสดงความเสียใจ และขอโทษประชาชนชาวยะลา แต่ว่า การแก้ไขปัญหานั้นทางจังหวัดจะเยียวยาให้เร็ว และให้มากที่สุด” ผวจ.ยะลา กล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวอีกว่า ในเรื่องของมาตรการในการรักษาความปลอดภัยนั้น นอกจากจะตั้งด่านจุดตรวจ จุดสกัดแล้ว ก็จะทีกำลังเจ้าหน้าที่ที่เป็น รถจักรยานยนต์เคลื่อนที่มารักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ซึ่งทางจังหวัดได้กำหนดพื้นที่ ที่เป็นย่านชุมชน ย่านการค้า ย่านธุรกิจของชาวจีนกับชาวไทยพุทธเป็นกรณีพิเศษ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายมุ่งให้เกิดความแตกแยก โดยมุ่งมาทำร้ายชุมชนชาวไทยพุทธกับชุมชนคนจีน เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องดูแลคนไทยพุทธ และคนจีนเป็นกรณีพิเศษไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก
คาร์บอม์กลางเมืองยะลา 13 กพ.54 เวลา 09.50 น.
คาร์บอม์กลางเมืองยะลา เจ้าหน้าที่-ชาวบ้านเจ็บนับสิบเจ็บ ขณะที่เหตุระเบิดยังทำให้บ้านเรือนเกิดเพลิงลุกไหม้เสียหายอีกหลายหลัง
เมื่อวันที่ 13 กพ.54 เวลา 09.50 น. ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณ ถนน ณ.นคร เยื้องธนาคารนครหลวง เขตเทศบาลนครยะลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จึงได้แจ้ง พ.ต.อ.กฤษฏา แก้วจันดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ทราบ พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร มูลนิธิกู้ภัย เหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าไปยังที่เกิดเหตุทันที
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเบื้องต้นเป็นเจ้าหน้าที่ ทหาร และประชาชน จำนวน 9-10 ราย นำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา นอกจากนั้นแรงระเบิด ยังทำให้เกิดเพลิงไหม้อาคารซึ่งอยู่ตรงจุดเกิดเหตุจำนวน 4 หลัง เจ้าหน้าที่จึงได้วิทยุระดมขอรถดับเพลิง ของเทศบาลนครยะลา มาช่วยกันดับไฟซึ่งกำลังโหมไหม้อย่างหนัก เนื่องจากในละแวกดังกล่าวเป็นบ้านไม้ ค่อนข้างเก่า จึงไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้ โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบรถยนต์ที่เป็นสาเหตุของการระเบิด เกิดแพลิงไหม้ทั้งคัน อยู่บริเวณกลางถนน ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบวัตถุระเบิด กำลังรอเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าทำการดับเพลิงอยู่
เมื่อวันที่ 13 กพ.54 เวลา 09.50 น. ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณ ถนน ณ.นคร เยื้องธนาคารนครหลวง เขตเทศบาลนครยะลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จึงได้แจ้ง พ.ต.อ.กฤษฏา แก้วจันดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ทราบ พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร มูลนิธิกู้ภัย เหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าไปยังที่เกิดเหตุทันที
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเบื้องต้นเป็นเจ้าหน้าที่ ทหาร และประชาชน จำนวน 9-10 ราย นำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา นอกจากนั้นแรงระเบิด ยังทำให้เกิดเพลิงไหม้อาคารซึ่งอยู่ตรงจุดเกิดเหตุจำนวน 4 หลัง เจ้าหน้าที่จึงได้วิทยุระดมขอรถดับเพลิง ของเทศบาลนครยะลา มาช่วยกันดับไฟซึ่งกำลังโหมไหม้อย่างหนัก เนื่องจากในละแวกดังกล่าวเป็นบ้านไม้ ค่อนข้างเก่า จึงไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้ โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบรถยนต์ที่เป็นสาเหตุของการระเบิด เกิดแพลิงไหม้ทั้งคัน อยู่บริเวณกลางถนน ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบวัตถุระเบิด กำลังรอเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าทำการดับเพลิงอยู่
วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
เบตงวางระเบิดทหารชุดคุ้มครองครูเจ็บ2นาย (7 ก.พ. 54).mp4
เบตงวางระเบิดทหารชุดคุ้มครองครูเจ็บ 2 นาย
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 7 ก.พ. 54 ร.ท.สราวุธ อุ่นจะ นำ ผบ.ร้อย ม.3 ฉก.ยะลา 16 รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุด รปภ.ครู บนถนนภายในหมู่บ้านธารมะลิ ม.4 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จึงพร้อมด้วย นายอุรุพงษ์ ชนะกุล ปลัดอำเภอฝ่ายงานป้อง และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ร้อย ตชด.445 เบตง รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบว่าบริเวณผิวกลางถนนมีหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 2 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊ส ปิกนิก หนัก 5 ก.ก.จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ที่มีการลากสายไฟฟ้าเข้าไปในป่ารกทึบบริเวณข้างทาง ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน และห่างไปประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์จำนวน 2 คันจอดอยู่ริมถนนในสภาพที่กระจังหน้าถูกสะเก็ดระเบิดเป็นรูพรุน ส่วนผู้บาดเจ็บเพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลเบตงไปก่อนหน้าแล้ว คือ สอ.ธีรเดช มหาอุต อายุ 34 ปี พลทหาร พงษกร เขื่อนรอบเขต อายุ 22 ปี สังกัดทหาร ร้อย ม.3 ฉก.ยะลา 16 มีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดขาขวา แขนซ้ายและร่างกาย ทั้ง 2 เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ สอ.ธีรเดช หน.ชุด ได้นำกำลังทหารรวม 12 นายขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากฐานปฏิบัติการณ์ เพื่อทำหน้าที่ รปภ.ครูโรงเรียนบ้านธารมะลิ ก่อนเกิดเหตุหลังกลับจากส่งคณะครู เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน แฝงตัวอยู่ในบ้านรกทึบริมทาง ได้ใช้แบตเตอรี่จุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปฝังไว้กลางถนน และได้เกิดระเบิดขึ้นขณะที่รถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ขับผ่าน แต่โชคดีระเบิดทำงานไม่สมบูรณ์ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเพียง 2 นาย ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ร้ายรายวันของกลุ่มโจร ใต้ที่แฝงตัวอยู่ในพื้นที่
ข่าว....
เจษฎา สิริโยทัย อ.เบตง จ.ยะลา
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 7 ก.พ. 54 ร.ท.สราวุธ อุ่นจะ นำ ผบ.ร้อย ม.3 ฉก.ยะลา 16 รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุด รปภ.ครู บนถนนภายในหมู่บ้านธารมะลิ ม.4 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จึงพร้อมด้วย นายอุรุพงษ์ ชนะกุล ปลัดอำเภอฝ่ายงานป้อง และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ร้อย ตชด.445 เบตง รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบว่าบริเวณผิวกลางถนนมีหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 2 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊ส ปิกนิก หนัก 5 ก.ก.จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ที่มีการลากสายไฟฟ้าเข้าไปในป่ารกทึบบริเวณข้างทาง ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน และห่างไปประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์จำนวน 2 คันจอดอยู่ริมถนนในสภาพที่กระจังหน้าถูกสะเก็ดระเบิดเป็นรูพรุน ส่วนผู้บาดเจ็บเพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลเบตงไปก่อนหน้าแล้ว คือ สอ.ธีรเดช มหาอุต อายุ 34 ปี พลทหาร พงษกร เขื่อนรอบเขต อายุ 22 ปี สังกัดทหาร ร้อย ม.3 ฉก.ยะลา 16 มีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดขาขวา แขนซ้ายและร่างกาย ทั้ง 2 เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ สอ.ธีรเดช หน.ชุด ได้นำกำลังทหารรวม 12 นายขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากฐานปฏิบัติการณ์ เพื่อทำหน้าที่ รปภ.ครูโรงเรียนบ้านธารมะลิ ก่อนเกิดเหตุหลังกลับจากส่งคณะครู เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน แฝงตัวอยู่ในบ้านรกทึบริมทาง ได้ใช้แบตเตอรี่จุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปฝังไว้กลางถนน และได้เกิดระเบิดขึ้นขณะที่รถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ขับผ่าน แต่โชคดีระเบิดทำงานไม่สมบูรณ์ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเพียง 2 นาย ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ร้ายรายวันของกลุ่มโจร ใต้ที่แฝงตัวอยู่ในพื้นที่
ข่าว....
เจษฎา สิริโยทัย อ.เบตง จ.ยะลา
วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)