ONLINE

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

คืบหน้าคาร์บอมยะลา เจ็บรวม 18 ราย ร้านค้าวอด 12 หลัง13 02 54

คืบหน้าคาร์บอมยะลา เจ็บรวม 18 ราย ร้านค้าวอด 12 หลัง เสียหายกว่า 10 ล้านบาท ในขณะที่วงจรปิดพบคนร้ายนำรถมาจอด ส่วน ผวจ.ยะลา สั่งดูแลผู้ได้รับผลกระทบเต็มที่

      จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายนำรถยนต์ซุกซ่อนวัตถุระเบิด มาจอดที่หน้าร้านเฮนเบเกอรี่ ถนน ณ นคร เขตเทศบาลนครยะลา แล้วจุดชนวนระเบิดขึ้นในขณะที่มีรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ทหารวิ่งผ่านมา เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย นอกจากนั้นยังทำให้บ้านเรือนที่เป็นร้านค้าถูกเพลิงไหม้นับสิบคูหา เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.50 น. ที่ผ่านมา ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

      ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิง สามารถควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้ร้านค้าตรงจุดเกิดเหตุเอาไว้ได้แล้ว โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยในเบื้องต้นบ้านเรือนของชาวบ้านที่เปิดเป็นร้านค้าถูกเพลิงไหม้จำนวน 12 หลัง ค่าเสียหายจากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 18 ราย ทราบชื่อคือ สอ.ชานนท์ สองแก้ว พลทหารวรินรันต์ จันทร์ดี สต.ชาติชาย ประไมยะ ทหารสังกัด ฉก.ยะลา 14 นายเดชณรงค์ พันโท น.ส.อังคณาค์ ภัทรพงศ์ น.ส.ชลัยพร เรือนธรรม นายสมศักดิ์ รักพงษ์ นางศิริพร เรือนธรรม นางทักษิณา วงศ์จุมปู ด.ช.นิลพัทธ แก้วเกาะสะบ้า นายหมู แซ่เสี้ยว นายสุวัฒน์ ไตยรงค์เจริญสุข นายสมมาตร บุญรุ่ง นางปภาดา ผิวเกลี้ยง นายธนันต์ ฉั่วพานิชย์ นางเตือนใจ กลัดทอง และยังไม่ทราบชื่อ 1 ราย โดยส่วนใหญ่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนที่เหลือนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 7 คน

      แหล่งข่าวจากชุดสืบสวน ระบุว่า กล้องวงจรปิดในบริเวณจุดเกิดเหตุ สามารถบันทึกภาพของคนร้ายที่นำรถคันดังกล่าวมาจอดได้ โดยเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะดีแมค มาจอดตรงจุดเกิดเหตุ แล้วเดินลงจากรถข้ามฝั่งไปยังด้านหน้าของธนาคารนครหลวงไทย สาขายะลา จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.50 น.ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 14 ขับรถยนต์กระบะอีซูซุ หมายเลขทะเบียน บต.6817 ปัตตานี ผ่านมา คนร้ายจึงกดระเบิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารและชาวบ้านบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพของคนร้าย เอาไว้ได้ มาเทียบกับกลุ่มคนร้ายเป้าหมายแล้ว

      “สำหรับระเบิดที่คนร้ายนำมาซุกซ่อนอยู่ในรถคันดังกล่าว ในเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สปิกนิกจำนวน 3 ลูก น้ำหนักรวมไม่ต่ำกว่า 20 กก. เนื่องจากยังมีถังแก๊สปิกนิกบรรจุระเบิด กระเด็นออกจากตัวรถอีก 1 ถัง และไม่ได้เกิดระเบิดขึ้น ส่วนการจุดชนวนเชื่อว่าเป็นระบบรีโมทคอนโทรล หรือระบบมือถือ แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกครั้ง”

      ด้านนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายไม่ต่ำ กว่า 11 คูหา ซึ่งการช่วยเหลือเบื้องต้น นั้น ทางจังหวัดยะลาจะร่วมกับเทศบาลนครยะลา นำตั้งเต้นท์มารับแจ้งมูลค่าความเสียหาย โดยที่บ้านเสียหายทั้งหลังทางจังหวัดจะจ่ายให้ 25 เปอร์เซ็นต์ก่อน หลังจากนั้นก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลนครยะลา กับศูนย์เยียวยาจังหวัดประเมินมูลค่าความเสียหาย ซึ่งทางจังหวัดจะจ่ายตามความเป็นจริง โดยจะนำเงินเยียวยาที่ทางจังหวัดมีอยู่มาช่วยเหลือในทันที ซึ่งการเยียวยาในครั้งนี้ไม่ได้เยียวยาเฉพาะความเสียหายบ้านเรือนเท่านั้น แต่จะเยียวยามูลค่า สินค้า ที่ได้รับความเสียหายด้วยซึ่งหากร้านค้าใดมีใบสั่งของ มีและหลักฐาน ก็สามารถที่จะนำมาขอรับการเยียวยาได้ ในส่วนของการเกิดเหตุนั้น ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวแจ้งเตือนมาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ เทศกาลตรุษจีน และทางจังหวัดก็ได้ดูแลระมัดระวัง

      “ซึ่งในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 45 ที่ผ่านมา ก็เป็นสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ก็มีข่าวแจ้งเตือนจากหน่วยงานความมั่นคงว่า จะมีเหตุ แต่ในวันนี้คนร้ายใช้วิธีการแบบการหาเหยื่อ เอารถมาจอดไว้ เมื่อมีรถเจ้าหน้าที่ขับผ่านจึงได้กดระเบิดขึ้น แต่เผอิญว่า มีเศษไฟจากวัตถุระเบิดเข้าไปในบ้านราษฎร ซึ่งเป็นบ้านเรือนหลังเก่า และก็มีเชื้อเพลิงอยู่แล้ว ก็เลยทำให้เกิดความเสียหายมาก ตนเองขอแสดงความเสียใจ และขอโทษประชาชนชาวยะลา แต่ว่า การแก้ไขปัญหานั้นทางจังหวัดจะเยียวยาให้เร็ว และให้มากที่สุด” ผวจ.ยะลา กล่าว

      ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวอีกว่า ในเรื่องของมาตรการในการรักษาความปลอดภัยนั้น นอกจากจะตั้งด่านจุดตรวจ จุดสกัดแล้ว ก็จะทีกำลังเจ้าหน้าที่ที่เป็น รถจักรยานยนต์เคลื่อนที่มารักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ซึ่งทางจังหวัดได้กำหนดพื้นที่ ที่เป็นย่านชุมชน ย่านการค้า ย่านธุรกิจของชาวจีนกับชาวไทยพุทธเป็นกรณีพิเศษ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายมุ่งให้เกิดความแตกแยก โดยมุ่งมาทำร้ายชุมชนชาวไทยพุทธกับชุมชนคนจีน เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องดูแลคนไทยพุทธ และคนจีนเป็นกรณีพิเศษไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น