ONLINE

วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

นรา แฉโจรใต้วางแผนถล่มฐานทหารที่ระแงะ


ชี้โจรใต้ถล่มฐาน ปล้นอาวุธ เอ็ม16หายเพียบ
แฉโจรใต้ถล่มฐานทหารที่นราฯ หวังปล้นอาวุธ พบอาคารน็อคดาวน์ ที่ใช้เป็นสถานที่เก็บอาวุธประจำฐานถูกงัด ปืนเอ็ม.16, ปืนพกสั้นหายไปกว่า50กระบอก กระสุนอีก 4 พันนัด คาดเตรียมก่อเหตุใหญ่ ด้านมทภ.4ลงพื้นที่เยี่ยมอาการ และให้กำลังใจ...

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 20 ม.ค.ที่ตึกศัลยกรรมชาย รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย นายเดชรัตน์ สิมศิริ รอง ผวจ.นราธิวาส เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ทหาร สังกัด ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 จำนวน 6 นาย ซึ่งถูกกลุ่มคนร้ายบุกยิงถล่มภายในฐานปฏิบัติการ ร้อย ร.15121 โดยทำให้ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผบ.ร้อย ร.15121 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุพร้อมลูกน้องอีก 3 นายประกอบด้วย ส.อ.เทวรัตน์ เทวา ส.อ.อับดุลเลาะห์ ตาหยี และพลฯประวิทย์ ชูกลิ่น


ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เยี่ยมพร้อมซักถามถึงอาการบาดเจ็บจากแพทย์ของ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้ง 6 นาย มีอาการสาหัส 2 นาย โดยนอนรักษาตัวอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดที่ห้องไอซียู คือ ส.อ.สุคน ชูศรี อายุ 28 ปี ที่ถูกกระสุนเข้าที่บริเวณก้นและขา และ พลฯธันวา ยอดแก้ว อายุ 22 ปี ซึ่งถูกกระสุนเข้าที่ปอดเฉี่ยวขั้วหัวใจ โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้มอบเงินเยียวยาสภาพจิตใจของทหารทั้ง 6 นาย โดยสรุปยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 นาย และผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดรวม 13 นาย นอกพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ จำนวน 6 นาย และพักรักษาตัวอยู่ที่ฐานปฏิบัติการจำนวน 7 นาย

พล.ท.อุดมชัย กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังในหลายพื้นที่โดย เฉพาะพื้นที่เสี่ยง แต่ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งกลุ่มคนร้ายลงมือปฏิบัติการอย่างอุก อาจในช่วงเวลา 19.30 น.นั้น เกิดข้อผิดพลาดที่กองกำลัง ทำให้เกิดช่องโหว่ ซึ่งจะต้องมีการประเมินและหาแนวทางเพื่อแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่น นี้อีกต่อไป อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเกิดการสูญเสียกำลังพลอีกครั้งหนึ่ง แต่เท่าที่ทราบทุกนายก็พยายามเต็มที่แล้ว โดยมีการยิงปะทะกันประมาณ 30 นาที อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่ปฏิบัติงานของกองกำลังทุกหน่วยเชื่อว่า ประชาชนทุกคนเข้าใจในการทำงานของภาครัฐมากขึ้น โดยเหตุการณ์ที่ผ่าน ๆ มาซึ่งเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดีจะเป็นตัวช่วยทำให้ประชาชนรู้ซึ้งถึง พฤติกรรมความมุ่งร้ายของฝ่ายตรงข้ามได้ชัดเจนมากขึ้นเช่นกัน

ต่อมา เวลา 08.30 น. วันเดียวกัน นายเดชรัฐ สิมศิริ รอง ผวจ.นราธิวาส พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมเดินทางไปยังฐานปฏิบัติการพระองค์ดำ สังกัด ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 ริมถนนสายมะรือโบตก-รือเสาะ บ้านมะรือโบตก หมู่ 1 ต.มะรือโบ ตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งถูกกลุ่มคนร้ายยิงถล่มฐานทำให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการตรวจสอบความเสียหายพบว่ามีอาคารน็อคดาวและเพิงพักของทหารถูก คนร้ายวาง เพลิง ได้รับความเสียหาย 4 หลัง รถ จยย.ถูกวางเพลิง 1 คัน โดยเฉพาะที่บริเวณอาคารน็อคดาวที่ใช้เป็นสถานที่เก็บคลังอาวุธประจำฐาน ถูกกลุ่มคนร้ายงัดประตูและขโมยอาวุธปืนสงคราม เอ็ม.16 และอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 11 ม.ม. ไปจำนวนกว่า 50 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนกว่า 4,000 นัด นอกจากนี้บริเวณรั้วสนามที่ใช้ทำเป็นกำแพงด้านหลังของฐาน เจ้าหน้าที่พบกลุ่มคนร้ายได้ใช้ไม้กระดานขนาดยาวประมาณแผ่นละ 3 เมตร จำนวนกว่า 10 แผ่น วางพาดเพื่อใช้เป็นสะพานในการวิ่งกรูเข้าโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารแบบประชิดตัว และเจ้าหน้าที่สามารถเก็บรวบรวมหลักฐานและชิ้นส่วนของวัตถุระเบิด ซึ่งกลุ่มคนร้ายใช้เป็นอาวุธในการบุกโจมตีเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบพบหลุมเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม.79 และเอ็ม.203 จำนวนกว่า 20 จุด ปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16 เอ็ม.60 อา.ก้า.ลูกซอง อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 ม.ม. ขนาด 11 ม.ม. ตกอยู่เกลื่อนบริเวณฐานทหาร รวมทั้งสิ้นกว่า 700 นัด

โดย แหล่งข่าวชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าร่วมตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้นใน ครั้งนี้ได้ประเมินว่า การปฏิบัติการของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้มีไม่ต่ำกว่า 40 คน มีการวางแผนบุกโจมตีฐานไว้อย่างดีกว่าเหตุคนร้ายบุกปล้นปืนที่กองพันพัฒนา 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2547 ที่ผ่านมา ซึ่งคาดกลุ่มคนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวกำลังพลและความเคลื่อนไหวภายในฐาน จึงหาช่องว่างบุกโจมตีในช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งกำลังที่ปฏิบัติการในครั้ง นี้เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเคยร่วมบุกปล้น ปืนด้วย โยมีนายมะแซ อุเซ็ง เป็นผู้บงการในการรวบรวมอาวุธเพื่อเตรียมนำมาใช้ก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ใน พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ราวประมาณเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมที่จะถึงนี้

ส่วนการติดตามไล่ ล่ากลุ่มคนร้ายนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและฝ่ายปกครองที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ อำเภอระแงะ ได้ร่วมสนธิกำลังประมาณ 300 นาย พร้อมสุนัขสงครามดมกลิ่นกระจายกำลังกันโอบล้อมเทือกเขาซึ่งตั้งอยู่หลังฐาน และเป็นเส้นทางหลบหนีของกลุ่มคนร้ายหลังจากปฏิบัติการถล่มฐานทหารแล้ว เสร็จ ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบรอยเลือดของกลุ่มคนร้ายหยดตามเส้นทางที่มุ่ง หน้าขึ้นสู่เทือกเขา ซึ่งห่างจากฐานประมาณ 500 เมตร และคาดว่ากลุ่มคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ยิงได้รับบาดเจ็บไปจำนวนหลายคน.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น