ONLINE

วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2554

นรา-ยิงผญบ.ตันหยงลิมอคนสนิทขิง ผช.ผบ.ทบ.ตาย


ผู้ใหญ่บ้านตันหยงลิมอ คนสนิทผู้ช่วย ผบ.ทบ.ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ก่อนหนีคนร้ายได้หยิบอาวุธปืนพกสั้น 9 ม.ม.พร้อมกระสุน 60 นัดไปด้วย
       เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 7 ม.ค. 54 พ.ต.ท.เฉลิม ยิ่งคง สว.เวร สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนตามประกบยิงผู้ใหญ่บ้านตันหยงลิมอ ม.7 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ เสียชีวิตใกล้กับคอสะพานไอ้แดง จึงพร้อมด้วย นายศุภวริศ เพชรกาฬ นายอำเภอระแงะ พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ
       พบชาวบ้านเป็นจำนวนมากยืนมุงดูศพผู้เสียชีวิตที่นอนจมกองเลือดอยู่ริมถนน ข้างรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีมสีดำ ทะเบียน กมว-734 นราธิวาส จากการตรวจสอบทราบชื่อต่อมาคือ นายสิงห์ชัย สาและ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153/1 ม.7 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านตันหยงลิมอ และเป็นคนสนิทของ พล.อ.พิเชษฐ์ วิสัญจร ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ที่ร่วมกันก่อตั้งและดำเนินการโครงการเศรษฐกิจพอเพียง จนเป็นสถานที่ต้นแบบแห่งการเรียนรู้ขยายสู่หมู่บ้านต่างๆในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยถูกกระสุนปืน อา.ก้า.และกระสุนปืนพกสั้น ขนาด .38 ซุปเปอร์ ของคนร้ายที่บริเวณแผ่นหลัง หน้าอก และศรีษะ
       และจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน อา.ก้า.และกระสุนปืนพกสั้น ขนาด .38 ซุปเปอร์ ตกอยู่ที่บริเวณริมถนนและข้างศพผู้เสียชีวิต รวม 10 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลระแงะ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง
       จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขี่รถ จยย.ออกจากบ้านตามลำพัง โดยพกอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 ม.ม. พร้อมแม็กกาซีนอีก 4 อัน ซึ่งบรรจุกระสุน จำนวน 60 นัด ที่ใส่ไว้ในเข็มขัดพกอาวุธปืนนำไปคาดเอวเพื่อเดินทางไปร่วมกินน้ำชาในหมู่ บ้านกับชาวบ้าน ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย จำนวน 2 คน ขี่รถ จยย.เป็นพาหนะตามไล่หลัง เมื่อสบโอกาสคนร้ายได้ขี่รถ จยย.เข้าประชิด ให้คนร้ายที่นั่งซ้อนท้เยใช้อาวุธปืน อา.ก้า.ยิงใส่ผู้ตาย จำนวน 5 นัดซ้อน เมื่อถูกกระสุนปืนรถ จยย.ผู้ตายได้เสียหลักล้มคว่ำริมถนน แล้วคนร้ายได้จอดรถ จยย. ทั้ง 2 คน ได้เดินถืออาวุธปืน อา.ก้า.และอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 ซุปเปอร์ ออกมาจ่อยิงซ้ำใส่ผู้ตายเพื่อให้มั่นใจว่าเสียชีวิต แล้วคนร้ายได้ปลดเข็มขัดอาวุธปืนของผู้ตายที่คาดเอวไว้ วิ่งหลบหนีขึ้นรถ จยย.ขี่หลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
       ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ ไม่หวังดี ที่ต้องการสังหารคนของทางการรายวัน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยถูกกลุ่มคนร้ายลอบดักสังหารมาแล้ว 2 ครั้ง แต่สามารถรอดชีวิตมาได้ และมาพบจุดจบในครั้งที่ 3

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น